Custom Search
##=================================================================## ##=================================================================##

กำเนิด BitTorrent

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ผู้คิดค้น Bittorrent ชื่อ Bram Cohen โปรแกรมเมอร์หนุ่มชาวอเมริกัน

Bram Cohen เกิดในปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) เติบโตในย่าน Manhattan เมือง New York City เรียนเขียนโปรแกรมภาษา BASIC ตั้งแต่อายุ 5 ขวบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์เล็กๆ ยี่ห้อ "Timex Sinclair" จบ มัธยมจาก Stuyvesant High School ซึ่งกล่าวได้ว่า เป็น เตรียมอุดม ของ อเมริกา ทีเดียว จำนวนคนที่ได้รางวัล Nobel Prize มาจากสองโรงเรียน มากที่สุด โรงเรียนนี้เป็นหนึ่งในสอง

บุคคล คนนี้ จัดได้ว่า เป็น ราชาของ Geek ได้เลย

สมัยเรียนมัธยม Cohen สอบผ่าน ให้ไปเป็นตัวแทน โอลิมปิคคณิตศาสตร์ ของสหรัฐ ข่าวไม่ได้บอกว่า ไปสอบหรือเปล่า เรียน ไม่จบมหาวิทยาลัย ออกมาทำงานเสียก่อน เมื่อโตขึ้นเข้าเรียน University at Buffalo แต่ลาออกกลางคันมาทำงานให้กับบริษัทประเภท "Dot com" หลายแห่งช่วงราวปี 1997 - 2000 จนมาถึงบริษัท MojoNation

ที่สำนักงานของ MojoNation ยุคนั้นมีระบบแปลงไฟล์งานเป็นรหัสพิเศษแล้วแบ่งออกเป็นชิ้นๆ เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์เครื่องต่างๆ กัน เมื่อพนักงานคนไหนจะใช้ก็จะดึงจากเครื่องต่างๆ นี้มาประกอบรวมกันแล้วแปลงกลับเป็นไฟล์งาน แบรม โคเฮน เกิดปิ๊งไอเดียว่านี่เป็นแนวคิดที่เยี่ยมมากในการดาวน์โหลดไฟล์กันทางอินเทอร์เน็ต จึงเริ่มลงมือเขียนโปรแกรมและพัฒนาระบบตามที่ฝันตั้งแต่นั้นมา

ในปีเดียวกันนั้นเองที่ Cohen ลาออกจาก MojoNation มาพัฒนา BitTorrent อย่างเต็มเวลาร่วมกับเพื่อนที่ชื่อว่า Len Sassaman แล้วเปิดตัวยในงานสัมนาโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า "CodeCon conference" เรียกความสนใจได้กว้างขวางอย่างรวดเร็ว

ในปี 2002 ช่วงแรกของการทดลองใช้ Bittorrent โคเฮนแจกภาพโป๊ฟรีเพื่อดึงดูดให้คนมาทดลองใช้โปรแกรมกันมากๆ ต่อจากนั้นโปรแกรมก็แพร่หลายในบรรดาผู้ใช้ระบบ Linux เอาไว้แลกเปลี่ยนไฟล์โปรแกรมที่เป็น Open-source ต่อกัน แต่ Bittorrent ดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลกได้ก็เมื่อถูกนำมาใช้แบ่งปันดาวน์โหลดไฟล์หนังและไฟล์เพลงใหญ่ๆ กัน

ปี 2003 แบรม โคเฮน เข้าทำงานเป็นระยะเวลาสั้นๆ ที่บริษัท Valve Software เจ้าของเกมยิงชื่อดัง Half Life เพื่อสร้างระบบ "Steam" ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กระจายไฟล์สำหรับเกม Half-Life 2

ปีถัดมาคือ 2004 เขาก็ออกมาก่อตั้งบริษัท BitTorrent Inc. ร่วมกับน้องชายคือ Ross Cohen และหุ้นส่วนชื่อ Ashwin Navin และปี 2005 ก็ได้รับเงินร่วมทุนครั้งใหญ่จาก David Chao วาณิชธนกรจากกองทุนเวนเจอร์แคปิตอลชื่อ Doll Capital Management


BitTorrent สวรรค์ของไฟล์เถื่อน ?

แม้ว่า Bittorrent จะถูกใช้รับส่งไฟล์หนังหรือเพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่เสมอ แต่โคเฮนก็ย้ำเสมอว่าเขาไม่สนับสนุนการใช้ Bittorrent ในทางผิดกฎหมายและพยายามหาทางป้องกันอยู่เสมอ

ปลายปี 2005 BitTorrent Inc. ทำข้อตกลงกับหน่วยงานรัฐดูแลเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่ชื่อว่า MPAA (Motion Picture Association of America) ที่จะคอยป้องกันกำจัดลิงค์ไปยังไฟล์เถื่อนทุกลิงค์ในเว็บไซต์ทางการของ BitTorrent (bittorent.com) ข้อตกลงนี้ร่วมกันเซ็นกับค่ายหนังรายใหญ่ในอเมริกาทั้ง 7 แห่งด้วย เช่น Paramount, 20th Century Fox, Universal โดยอิงกับกฎหมายที่ชื่อว่า "Digital Millennium Copyright Act"

อัจฉริยะออทิสติก

โคเฮนยอมรับว่าเขามีอาการทางประสาทที่เรียกว่า "Asperger's syndrome" คล้ายอาการ Authistic มีอาการชอบทำอะไรซ้ำๆ เป็นกิจวัตร ไวเป็นพิเศษกับแสง เสียง กลิ่น รส ชอบผ้านุ่มๆ และมีปัญหาในการสื่อสารพูดคุย แต่จะมีสมาธิเป็นพิเศษจดจ่อกับเรื่องที่สนใจ จนบางคนก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเดียวไปเลย

ที่น่าแปลก และน่าสนใจมาก ก็คือ บุคคลคนนี้ มีความผิดปกติทางสมอง ที่เขาเรียกว่า Asperger's Syndrome คือ เป็นความผิดปกติทางพัฒนาการทางสมองในด้านที่เรียกว่า Autism แบบ อ่อนๆ ชนิดหนึ่ง( ไม่แน่ใจว่า ภาษาชาวบ้านของเราเรียกว่า โรคเอ๋อ หรือเปล่า) คนที่มีกลุ่มอาการนี้ มีสติปัญญา อย่างน้อย เท่าคนปกติ แต่มีความสามารถในทางสังคม( social skill) ที่ผิดปกติ หรือต่ำกว่าคนทั่วไป( มักจะเกี่ยวกับทาง จิตใจ อารมณ์และสังคม) พบบ่อยใน ชาย มากว่าหญิง
ลักษณะความผิดปกติ ของกลุ่มอาการนี้คือ

๑ ทางสังคม ขาดความสามารถที่จะแสดงอารมณ์ หรือ การปฎิบัติต่อกันในสังคม คือขาดความเข้าใจในความรู้สึกหรืออารมณ์ที่ละเอียดอ่อน จะไม่เข้าใจ หน้าตา ความรู้สึก ดีใจ เศร้า ฯ มีคนอธิบายว่า พวกนี้ บอดทางจิตใจและอารมณ์ ( mind-blindness)

๒ มีความสนใจที่ แคบ แต่ สนใจอย่างมากๆ ( narrow , intense interests) คือสนใจเรื่องอะไร ก็ชนิดบ้าเรื่องนั้นทีเดียว บทความยกตัวอย่าง สนใจ เรื่องมวยปล้ำ ( สงสัย บรรดาคนที่ ทำ แฟนพันธ์แท้ คงมีพวกนี้อยู่บ้าง) หรือพวกสาขา computer ไดโนเสาร์ ความสนใจอาจจะไม่เปลี่ยน หรืออาจจะเปลี่ยนความสนใจอย่างกระทันหัน คนพบกลุ่มอาการนี้ ( ชาว Austria) เรียกพวกนี้ว่า Little Professor พบว่า คนในกลุ่มนี้ จะมีความสนใจชนิดที่เรียกว่า จำได้เหมือนเห็นรูปภาพ( photographic memory คือคนที่จำได้อย่างแม่นยำมากๆ สามารถบอกได้อย่างละเอียด) และสนใจอย่างสูง( obsessive focus) คนพวกนี้ ไม่สนใจหรือทนที่จะเรียนเรื่องอื่นเลย ในโรงเรียน พวกนี้ จะเป็นคนฉลาดมากในเรื่องๆหนึ่ง แต่จะไม่มีความสามารถหรือสนใจ ที่ทำของทั่วๆไป ในสาขาอื่น เช่นการบ้าน
ฉนั้น คนพวกนี้ เมื่อเอา ปัญหาทางอารมณ์ และความสามารถที่มีอยู่ รวมกัน มันเลยออกมาชนิดที่แปลกมา เช่น เมื่อเจอกัน แทนที่จะกล่าวสวัสดีกัน กลายเป็น พูดพล่ามเรื่องที่เขาสนใจพิเศษเสียยืดยาว

๓ ปัญหาเรื่องการพูดและภาษา ในสาขาที่พวกนี้สนใจมาก เขาพูดได้มาก ขนาดระดับมาจากตำราในมหาวิทยาลัย แม้จะเป็นเด็ก และเด็กพวกนี้ที่มีความสามารถในเรื่อง ภาษา จะใช้ภาษาที่แปลก สวิงสวาย หรือทันสมัยมาก หรืออาจสามารถเขียน เรื่องตลกขบขันได้อย่างดี เป็นต้น

๔ ลักษณะอื่น มีระบบอื่น ที่การพัฒนาไม่เจริญตามปกติ เช่น การเคลื่อนใหว เช่น เดินไม่ค่อยคล่อง หรือเดินท่าแปลกๆ เช่น มือกางๆ หรือในระบบ การรับเสียง ปัญหาที่เขาเรียกว่า Sensory Overload( ไม่ทราบว่าจะแปลว่าอะไร) ในโรงเรียน พวกนี้จะทนเสียงดังๆในห้องไม่ได้ บางคนจะทนเสียงที่ซ้ำๆซากๆไม่ได้ เช่นเสียงนาฬิกาเดิน ในขณะที่เด็กธรรมดา สามารถทำให้เสียงเหล่านี้หายไปจาก สมาธิได้ และสามารถเรียกกลับมาเมื่อสนใจจะฟัง

การที่เด็กพวกนี้ มีปัญหาที่คนอื่นไม่มี เข้ากับเขาไม่ได้ ทำให้เด็กพวกนี้ ต้องสร้างเพื่อนขึ้นมาใน มโนภาพของเขา เป็นเพื่อนที่เขาติดต่อได้ ความสามารถทีพวกนี้ มีมากๆ มีได้หลายสาขา เช่น ภาษา อ่าน คำนวณ ความสามารถพิเศษ และอาจจะถึงระดับพวกที่อัจฉริยะเลย ก็ไม่น้อย หากความสนใจ ของคนพวกนี้ ตรงกับ สิ่งที่สังคมต้องการ เช่น computer อย่าง Bram Cohen นี้ ผลก็คือ เขาจะอยู่ในแนวหน้า และจะได้ผลประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่ เพราะ เป็นคนทีมีความสามารถในสาขานั้น

แบรม โคเฮน มีงานอดิเรกคือการพับกระดาษโอริกามิ อ่านและขบคิดเรื่องโจทย์คณิตศาสตร์ซับซ้อน เล่นเกมฝึกสมอง และโยนลูกบอล 5 ลูกสลับพร้อมกัน ทุกวันนี้อาศัยอยู่ใน San Francisco ย่าน Bay Area กับ Jenna ภรรยาและลูกๆ

*อ่านนี้ผมคิดเอง Bram Cohen เขาไม่ได้ออกแบบให้มี Ratio นะจะบอกให้

0 ความคิดเห็น: